วัด
นางพญา จ.พิษณุโลก" เป็นวัด เก่าแก่ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก
ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือ "วัดใหญ่" และ
"วัดราชบูรณะ"
ที่เรียกว่า "วัดนางพญา"
สันนิษฐานว่ามาจากชื่อของ พระวิสุทธิกษัตรี
ซึ่งเป็นอัครชายาของพระมหาธรรมราชา และพระราชมารดาของพระสุพรรณกัลยา,
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ
ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าทรงสถาปนาพระอารามแห่งนี้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย
ต่อ
มาวัดถูกทิ้งร้างเป็นเวลานานอันเนื่องจากศึกสงคราม
กระทั่งเมื่อมีการขุดค้นพบ "พระนางพญา"
วัดนางพญาจึงกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งหนึ่ง
ในคราวที่
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือในปี
ร.ศ.120 (พ.ศ.2444) ทรงมีพระราชหัตถเลขาบันทึกไว้ว่า
"....อนุสนธิรายงานวันที่ ๑๙ เวลาเช้า ๒ โมงเศษ
ลงเรือข้ามฟากไปขึ้นที่วัดมหาธาตุ แล้วเดินไปจนสุดถนน
อันเป็นถนนเดิมปูด้วยอิฐลายสองตามถนนริมน้ำไปเข้าวัดนางพญา เดินไปริมคู
ฤาสระรอบวัด...อนึ่ง ที่เล่าถึงเมื่อเวลาเช้านี้ขาดไปหน่อยหนึ่ง
เมื่อเสร็จการจุดเทียนไชยแล้ว ไปดูวัดนางพญา
ซึ่งอยู่ต่อจากวัดมหาธาตุติดกันทีเดียว วัดนี้ มีแต่วิหาร ไม่มีอุโบสถ
มีโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคมตั้งอยู่ในนั้นโรงหนึ่ง พระสอน มีนักเรียนมาก
ที่คับแคบไม่พอ..."
การพบพระนาง พญา กรุวัดนางพญา
จังหวัดพิษณุโลก "ตรียัมปวาย" ได้เขียนไว้อย่างชัดเจนในหนังสือ
"ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่องฯ เล่มที่ 2 เรื่อง นางพญาและพระเครื่องสำคัญ"
ว่า มีโอกาสได้พบ ผู้ใหญ่เลี่ยว ปาลิวณิช
นักพระเครื่องอาวุโสของจังหวัดพิษณุโลก ท่านเล่าว่า "กรุพระนางพญา"
เป็นพระเจดีย์ที่พังทลายฝัง จมดินอยู่บริเวณด้านหน้าของวัด
ตรงหน้ากุฏิท่านสมภารถนอม คราหนึ่งมีผู้หญิงชาวบ้านคนหนึ่งชื่อ นางถนอม
มาขุดพบพระนางพญาที่บริเวณหน้ากุฏิได้พระเป็นจำนวนมาก
ในคราวนั้นปรากฏว่าชาวเมืองพิษณุโลกไม่ได้ให้ความสนใจ ดังนั้น
พระนางพญาที่ถูกค้นพบจึงถูกเก็บไว้ที่วัดนางพญา
และบางส่วนอาจถูกนำไปบรรจุกรุยังที่อื่นๆ อีกด้วย
"พระ
พิมพ์ที่บรรจุอยู่ในกรุนี้ เป็นพระพิมพ์ที่เอามาจากวัดนางพญา
จังหวัดพิษณุโลก ในปี พ.ศ.๒๔๔๔
ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ รัชกาลที่ ๕
แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จประพาสจังหวัดพิษณุโลก
เพื่อนมัสการพระพุทธชินราชและทอดพระเนตรการหล่อพระพุทธชินราชจำลอง
ในวาระดิถีอันเป็นมหามงคลนี้ ได้มีราษฎร
ผู้จงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
นำพระพิมพ์มาถวายแด่ล้นเกล้าล้นกระหม่อมเป็นอันมาก
และเมื่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับไว้
ก็ได้พระราชทานจ่ายแจกแก่พระบรมวงศานุวงศ์และเจ้านายใหญ่น้อย
ตลอดจนบรรดาข้าราชบริพารที่ตามเสด็จในครั้งนั้นโดยทั่วถึงกัน
และเนื่องจากพระพิมพ์นี้มีจำนวนมาก
ส่วนหนึ่งจึงได้มีผู้รวบรวมมาบรรจุไว้ในกรุพระเจดีย์นี้ ..."
พระ
นางพญา วัดนางพญา เป็นพระ เนื้อดินเผา รูปทรงสามเหลี่ยม
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี
ทำให้ทราบว่าพระนางพญาเป็นการผสมผสานทางด้านศิลปะของสุโขทัยและอยุธยา
มีการตัดขอบแม่พิมพ์ด้วยตอกชิดองค์พระ
ส่วนด้านหลังจะมีรอยหดตัวด้วยอายุการสร้าง ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่าอายุประมาณ
500-600 ปี พุทธลักษณะองค์พระประธานประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย
พระหัตถ์ขวาพาดที่พระชานุ (หัวเข่า) พระหัตถ์ซ้ายวางตรงหน้าพระเพลา
(หน้าตัก) พระเกศเมาลีมีลักษณะคล้ายปลีกล้วย
แบ่งแยกแม่
พิมพ์ได้ทั้งหมด 6 พิมพ์ คือ พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง, พระนางพญา
พิมพ์เข่าตรง, พระนางพญา พิมพ์อกนูนใหญ่, พระนางพญา พิมพ์สังฆาฏิ,
พระนางพญา พิมพ์เทวดา และ พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก
พระ
พิมพ์นางพญา กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก นับเป็นพระเครื่องที่มีความสำคัญ
ที่ปรากฏหลักฐานการสร้างและการค้นพบมาแต่โบราณ มีพุทธลักษณะงดงามสง่า
กอปรกับพุทธาคมที่ปรากฏเป็นเลิศเป็นที่เล่าขาน
ทำให้ได้รับการยอมรับและยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "พระชุดเบญจภาคี"
สนใจโทรถาม0968241993
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น